วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พลังแห่งความเชื่อ

ก่อนจะเข้าเรื่องความเชื่อ ผมอยากให้คุณดูตัวอย่าง 2 เรื่องนี้ก่อนนะครับ




ในอดีต เด็กผู้หญิงจีน จะถูกบังคับให้ใส่รองเท้าขนาดเล็กและห้ามถอด ให้ใส่รองเท้าขนาดเท่านี้ตลอดชีวิต ทำให้เท้าถูกอัดและหยุดเจริญเติบโต ดังที่เห็นในรูปข้างบน


เพียงแค่ความเชื่อว่า คนที่ไม่ใช้งานเท้านั้นจะเป็นคนที่มั่งคั่ง และไม่ต้องทำงานอะไรเลย และแนวคิดนี้ถูกสืบทอดต่อมากว่า 1,000 ปี จนถูกยกเลิกไปในศตวรรษที่ 20




ชนเผ่า Mursi ในประเทศเอธิโอเปีย ผู้หญิงในชนเผ่านี้ ถ้าอยากสวย ดูดี น่าดึงดูด จะต้องมีปากที่ใหญ่ ใหญ่พอที่จะใส่แผ่นดินเผาได้ นอกจากนี้ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าพร้อมที่จะเป็นภรรยาที่ดีของสามี เป็นแม่ที่ดีของลูก และสามารถทำหน้าที่เหล่านี้ได้ดี


และก่อนที่จะทำได้ขนาดนั้น หญิงสาวจะได้รับการเจาะปากในช่วงวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 13-16 ปี) โดยญาติที่เป็นผู้หญิงนั้นจะทำการเจาะผ่าปากให้ ด้วยการเจาะผ่าบริเวณต่ำกว่าริมฝีปากเข้ามา 1-2 เซนติเมตร แล้วใช้หมุดไม้สอดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลติดกัน หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ เมื่อแผลหายพวกหล่อนจะใช้วัสดุที่มีขนาดใหญ่ยัดแทน ซึ่งส่วนมากจะเป็นแผ่นดินเหนียว แล้วเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนปากฉีกไปถึงเหงือก เมื่อถึงขั้นนี้ก็ต้องถอนฟันหน้าออก 2-4 ซี่ เพื่อให้เป็นช่องล็อกไว้ไม่ให้แผ่นดินเผาหลุดออกจากปาก

(อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.unigang.com/Article/15568#5izRgLiXzlUPWWMc.99)




ขนาดสิ่งที่เราคิดว่ามันไม่ควร ไม่น่าทำ ไม่น่าเป็นไปได้ คนเรายังทำให้เป็นไปได้ขนาดนี้ คิดดูว่าความเชื่อมีอิทธิพลขนาดไหน ถ้าคุณยังไม่เชื่อว่าคุณทำได้ ก็คิดดูว่าชีวิตที่คุณเป็นอยู่มันจะขนาดไหน?

บางอย่างที่ยังไงก็ดูเป็นไปไม่ได้ บางทีเราต้องใช้  “ความเชื่อ” อันแรงกล้าเป็นเครื่องมือนำทางไปสู่ความฝัน เพราะบางอย่างมันไม่สามารถจะตีภาพได้ชัดเจนพอที่จะบอกว่า “เป็นไปได้” ซึ่งJack Ma เจ้าของAlibaba.com  ได้กล่าวเอาไว้ว่า


“A lot of things you want to do, people may not like it, but you have to believe it. And when you believe it, when you started to do it. The things that people don't like it, don't understand it, surely we're not gain a lot of support.”




"หลายสิ่งที่คุณทำ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยชอบมัน แต่คุณต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณทำ และเมื่อคุณเชื่อมั่นแล้ว เมื่อคุณเริ่มที่จะทำมัน สิ่งนั้นคนเหล่านั้นไม่ชอบ ไม่เข้าใจมัน แน่นอนว่าคุณจะไม่ได้รับการสนับสนุนเลย"


(สามารถฟังคำพูดของ Jack Ma เพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Q7y56KtbFhs)


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องดูสภาพความเป็นจริงด้วย เช่น ไม่ใช่อยากเป็นนักเทนนิส แต่ตัวเองไม่มีแขนไม่มีขา ก็คงจะเพ้อฝันเกินไป แต่ถ้าดูแล้วว่าความเป็นจริงมันพอจะมีความหวัง ขอให้ลงมือทำเถอะครับ เพราะอนาคตอะไรๆก็เกิดขึ้นได้   


A great opportunity is often hard to be explained clearly; things that can be explained clearly are often not the best opportunities.”


โอกาสที่ยิ่งใหญ่นั้นมักจะอธิบายชัดเจนไม่ได้ ส่วนสิ่งที่อธิบายชัดเจนได้นั้นมักจะไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุด


~ จระเข้ฟาดหาง ~






References


Image credits
https://vulcanpost.com/5407/billionaire-jack-ma-teaches-you-how-to-be-successful-in-life-and-business/

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เราโชคร้ายจริงๆหรือ?

คุณกำลังคิดว่าตัวเองโชคร้ายอยู่หรือเปล่าครับ?




ผมอยากจะบอกว่าผมเองก็เคยคิด และทุกๆคนก็เคยคิด


ผมมักจะเครียดกับการเรียนและงานการบ้านที่ต้องทำ ผมรู้สึกว่าทำไมเราต้องมาเจองานอะไรที่น่าเบื่อขนาดนี้ เจอคนแย่ๆแบบนี้ เจอระบบระเบียบที่ไม่ได้เรื่องขนาดนี้ ทำไมเราถึงโชคร้ายแบบนี้ ที่ต้องมาอะไรแย่ๆ ไม่ได้สุขสบายเหมือนคนมีฐานะร่ำรวย ที่ดูเหมือนชีวิตไม่ต้องกังวลอะไรกับอนาคต…




แต่วันหนึ่ง ผมกำลังเดินเรียบไปตามฟุตบาทเพื่อที่จะเข้าบ้าน ก็เดินผ่านชุมชน ผ่านตลาด ก็มักจะเห็นคนขอทาน คนพิการ คนที่ทำงานหาเช้ากินค่ำ คนงานลูกน้องคอยแบกน้ำแข็งมาส่งร้านค้า ฯลฯ ทำให้คนเหล่านั้นครับ ทำให้ผมนั้นลืมความเหนื่อยความลำบากที่ผมกำลังเจออยู่หมดไป เพราะ...


ในขณะที่เรากินทิ้งกินขว้าง
แต่ยังมีบางคนที่ขอแค่ข้าวสักมื้อกินเพื่อประทังชีวิต


ในขณะที่เรากำลังหวังการเพิ่มเงินเดือน
แต่ยังมีบางคนที่ขอเพียงเศษเงินเพื่อที่จะได้ซื้อข้าวสักมื้อกินประทังชีวิต


ในขณะที่ทำงานได้เงินพอเหลือไว้กินไว้เที่ยว
แต่ยังมีบางคนที่ได้เงินรายวันแค่พอจะใช้กินอยู่ให้ตัวเองกับครอบครัวในวันนั้น และเงินเก็บเพียงเล็กน้อย


ฯลฯ


ผมจึงเลิกที่จะคิดว่าตัวเองนั้นโชคร้ายไปเลย เพราะว่าผมนั้นโชคดีกว่าใครหลายคนบนโลกใบนี้เยอะมาก เพียงแค่ผมมองข้ามสิ่งที่ผมมีอยู่ แล้วไปมัวแต่โฟกัสกับสิ่งที่ขาดไปก็เท่านั้นเอง...




“คนที่โชคร้าย คือ คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหน”
- unknown -


~ จระเข้ฟาดหาง ~



Image credits

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ทำไมปัญหาไม่เคยหมด?



ผมเคยคิดครับว่าอยากหนีปัญหาทางโลกที่เราใช้ชีวิตอยู่ ไปอยู่ทางธรรม น่าจะดีกว่า ไม่ต้องมาเจอคนแย่ๆ ไม่ต้องวุ่นวาย อยู่เฉยๆอย่างสงบ มีชีวิตสบายๆ ฯลฯ แต่มันไม่ใช่เลย เมื่อผมได้ลองบวชช่วงหนึ่ง ก็ไม่ได้สงบสบาย นั่วชิวนอนชิวหรอกครับ ก็ต้องทำงานเหมือนกับทางโลกที่เราอยู่นั่นแหละครับ แค่ทำงานคนละแบบแค่นั้นเอง




ที่เราเข้าไปบวช เพราะลึกๆแล้วเราทุกคนหวังว่า ชีวิตมีเงินเก็บแน่นอน ไม่ต้องใช้เงินเยอะ ได้เงินบริจาคปัจจัยมากมาย มีข้าวกินฟรีทุกวัน งานไม่หนัก ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ เวลาแก่ตัว. อายุมากขึ้นก็มีลูกศิษย์ลูกหามาเลี้ยงดู ฯลฯ
ซึ่งจริงๆแล้วจะได้ชีวิตที่ดีขนาดนั้น ก็ต้องทำต้องแลกอะไรหลายอย่างกว่าจะได้ชีวิตแบบนั้นเช่นกัน




มาบวชเพื่อหนีทางโลก ก็มาเจอปัญหาใหม่อีกอยู่ดี เพราะ “ปัญหามีอยู่ทุกที่” ไม่มีที่ไหนไม่มีปัญหาหรอกครับ อยู่ที่ว่าเราจะแก้ปัญหา หรืออยู่ปัญหานั้นได้ไหม เราออกห่างมาจากปัญหา ก็ไม่ต่างจากเรา “หนีปัญหา”


ดังนั้นอย่าคิดจะหนีปัญหา เพราะไม่ว่าคุณหนีไปถึงนอกโลกก็หนีไม่พ้นแน่นอน คุณแค่พยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด ถ้าปัญหามันแก้ไม่ได้ เราก็ปรับตัวอยู่กับปัญหานั้นให้ได้ แค่นี้ชีวิตคุณก็จะมีความสุขครับ  




ปล. ยิ่งปัญหาเรื่องคน ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรมก็เถอะ ถ้าคนยังมี ความโลภ ความโกรธ ความหลง อยู่ ไม่มีทางที่จะไม่มีปัญหา



~ จระเข้ฟาดหาง ~



Image credits

ความล้มเหลวจ๋า...มาหาพี่หน่อย

ความผิดพลาด คือสิ่งไม่ดี?
ความล้มเหลว คือสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย?
รอยแผล คือสิ่งที่ไม่สวยงามของร่ายกาย?
ความผิดหวัง คือความโชคร้าย ความซวยที่เราต้องเจอ?



Theodore Roosevelt ประธานาธิบดีคนที่ 26 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งดำรงตำแหน่งติดต่อกันถึง 2 สมัย (8 ปี) และได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ได้กล่าวไว้ว่า...



"คนที่ไม่เคยทำผิดพลาด คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย"

- Theodore Roosevelt -


รอยแผล, ความผิดหวัง, ความผิดพลาด, ความล้มเหลว ไม่ใช่สิ่งที่แย่เลย แต่เป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำ



ลองดูคลิปในวันที่ โน๊ต อุดม แต้พานิช ยังไม่ดังสิครับ มันเจ็บปวดขนาดไหน ตอนที่โดนรุ่นพี่ดาราตลก รุมรังเกียจ...
แต่ทุกวันนี้ โน๊ต อุดม แต้พานิช กลับโด่งดังแซงรุ่นพี่ๆทุกคนในกลุ่มทั้งหมด




"คนเคยทำอะไรเลย คือคนที่ไม่มีทางประสบความสำเร็จ"
- เม่าน้อยใจสู้ -

ถ้าคุณทดลองทำหลอดไฟล้มเหลวกว่า 10,000 ครั้ง คุณคิดว่าคุณจะทดลองทำหลอดไฟต่อไปอยู่ไหม? เป็นผมคงเลิกทำไปตั้งแต่ครั้งที่พันกว่าแล้วละครับ แค่ครั้งที่ 200 ผมก็คิดว่ามันคงจะไม่สำเร็จแน่ๆแล้วละครับ แต่Thomas A. Edison เขาเชื่อว่ามันทำได้ มันเป็นไปไปได้ และไม่ลดละความพยายาม ทำให้เขาสามารถประดิษฐ์หลอดไฟให้เราทุกคนได้ใช้ และทำให้ค่ำคืนของเราไม่มืดมิดอีกต่อไป...
ซึ่ง Edison ได้กล่าวสั้นๆไว้เพียงว่า


  


“ I have not failed. I've just found 10,000 ways that won't work. ”
“ผมไม่ได้ล้มเหลว ผมแค่รู้ว่ามีทางที่ไม่สำเร็จหนึ่งหมื่นทาง เท่านั้นเอง”
- Thomas A. Edison -



เราคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ผิดตอนนี้ ดีกว่า ผิดตอนสอบ”
แต่ชีวิตจริง ไม่มีวันสอบ มีแต่………...วันที่เรา จะประสบความสำเร็จ ต่างหาก  


ถ้าคุณ “ล้มเหลวตอนนี้ ดีกว่า ล้มเหลวในวันที่คุณควรจะสำเร็จ” มันดีกว่าไหมครับ?

Robert T. Kiyosaki เจ้าของหนังสือ Rich Dad Poor Dad ได้กล่าวไว้อย่างสั้นๆ เป็นความจริง และโดนใจใครหลายคนมากๆ นั่นก็คือ...  




“ผู้แพ้ล้มเลิกเมื่อเขาล้มเหลว แต่ผู้ชนะล้มเหลวจนเขาสำเร็จ”
- Robert T. Kiyosaki -




"ความล้มเหลว จะเป็นตัวทำลาย ผู้แพ้
และ จะเป็นตัวผลักดัน ผู้ชนะ"
- Robert T. Kiyosaki -


อย่าปล่อยให้ความล้มเหลวมาฉุดให้เราเป็นผู้แพ้ แต่จงใช้มันเป็นแรงผลัดดันให้เราเป็นผู้ชนะ…


ผมต้องขอบอกก่อนเลยว่า เวลาที่ล้มเหลว มันเจ็บปวดอยู่แล้วครับ ไม่ว่าเราจะมีทัศนคติดีแค่ไหน แต่ขอให้มั่นเลยว่า มันเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก และเมื่อคุณได้เล่าความล้มเหลวให้คนอื่นฟังในวันที่คุณประสบความสำเร็จ คุณจะขอบคุณมันด้วยซ้ำที่ทำให้คุณมีวันนี้ ความล้มเหลวจะทำให้คุณโตไปไกลขึ้นอีกมากมายอย่างที่คุณไม่คาดคิด



~ จระเข้ฟาดหาง ~



ฝากไว้ทิ้งท้าย

“We all know what failure means in the school system. It means the school thinks your child is not smart—but it really only means that your child isn’t doing what the school tells them to do.”




“เราทุกคนรู้ว่าความล้มเหลว หรือความผิดพลาดในระบบการเรียนการสอนที่โรงเรียนเป็นอย่างไร ซึ่งความล้มเหลวและความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเด็กในโรงเรียน มักหมายถึงเด็กคนนั้นไม่ฉลาดไม่เก่ง แต่ในความเป็นจริงมันหมายถึงว่าเด็กคนนั้นไม่สามารถทำในสิ่งที่โรงเรียนอยากให้เขาทำได้ เท่านั้นเอง”



"คนที่ไม่เคยทำผิดพลาด แปลว่าเขาไม่เคยทำอะไรใหม่ๆเลย"
Albert Einstein -


ความล้มเหลวของเหล่าคนดังมากมายรวบรวมไว้ในเว็บนี้แล้ว ผมเชื่อว่าสิ่งที่เขาเหล่านั้นเจอ ก็ไม่ต่างอะไรจากที่คุณเจอแม้แต่น้อย





References
Thomas A. Edison:


Why A students work for C students:
http://khmerebookfreedownload.blogspot.com/2016/04/why-students-work-for-c-students.html


Image credits
http://quotesideas.com/hurt-sad-love-quotes-with-wallpapers-images-hd-2016/2/ http://izquotes.com/quote/158083
https://chiangmaiprodrinks.com/2015/10/20/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B0/ http://quoteaddicts.com/author/robert-kiyosaki

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

รักแท้ คืออะไร?

คุณคิดว่ารักแท้มีจริงไหม?
คุณเคยเจอรักแท้ไหม?
แล้วคุณคิดว่ารักแท้คืออะไร?  




รักแท้ คือ พบกันครั้งแรกก็รู้ว่าคนนั้นคือคนที่ใช่ ใช่หรือเปล่า?
รักแท้ คือ การที่เราเลิกคิดถึงคนคนนั้นไม่ได้ ใช่หรือเปล่า?
รักแท้ คือ การเราอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ใช่หรือเปล่า?
รักแท้ คือ การรู้จักกันและกันอย่างลึกซึ้ง ใช่หรือเปล่า?
รักแท้ คือ การที่เราสามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนนั้นได้นานที่สุดจนถึงวันสุดท้าย ใช่หรือเปล่า?
แล้วรักแท้ คือ อะไร?




รักกันแล้วต้องมีความสุข แต่ทำไม เรายังกังวลหรือเสียใจ เพียงเพราะว่า เขาคนนั้นไม่ใส่ใจเรา เราทำทุกอย่างให้เขาแต่ทำไมเขาคนนั้นไม่เคยเห็นค่า เขาคุยกับคนอื่น ไม่โทรกลับ ไม่ส่งข้อความมาหาบ่อยๆ ติดเพื่อน ติดเกม ติดบอล ดูหนังดูซีรี่ย์มากเกินไป เขานอกใจ ฯลฯ


ไม่เห็นจะมีความสุขตลอดเวลาเลย แล้วนี่คือความรักที่แท้จริงหรือ?
เรา รัก หรือ คาดหวัง กันแน่?


แต่สำหรับคนบางคนที่รักแล้วมีแต่จะ “ให้” โดยที่ไม่เคยต้องการความรักหรือคาดหวังอะไรจากเรา คนที่รักเราอยู่เสมอ แต่..................เรามักจะมองข้ามความรักของเขา ไปหลงใหล วิ่งหาตามหาความรักจากคนอื่นๆที่ไกลตัว  โดยลืมมองคนใกล้ตัวที่ยังรักและห่วงใย และรอคอยเราอยู่ที่บ้าน  รอคุณกลับมากินข้าวพร้อมกัน..........




คุณอาจจะคิดว่าคนเราจะรักกันหรือไปด้วยกันได้ต้องมี นิสัยที่ดี อ่อนโยน พูดจาไพเราะ ไม่นอกใจ หล่อ สวย ขาว ตี๋ น่ารัก ต้องสนิทสนมจนรู้จักนิสัยของกันและกัน ฯลฯ
แต่บางคน………

รัก โดยที่ยังไม่เคยเห็นหน้าเห็นตาของเรามาก่อน หรือตั้งแต่เรายังเป็นไซโกตตัวเล็กๆ
รัก โดยไม่สนใจว่าเราจะหน้าตาหล่อหรือสวย
รัก โดยที่ยังไม่ต้องสนิทสนมคุ้นเคย หรือรู้จักตัวตนของเรามาก่อน
รัก โดยที่ยังไม่รู้ว่าเราจะมีนิสัยดีหรือไม่ดี
คนที่ให้อภัยเราทุกๆครั้งถึงแม้ว่าเราจะทำผิดพลาด หรือทำสิ่งที่ไม่ดี
คนที่ไม่ทิ้งเราไปไหนเมื่อยามเจ็บไข้ เสียใจ ร้องไห้ เขาคนนั้นจะเป็นกำลังใจให้เสมอ
คนที่ให้เราได้ทุกอย่าง โดยที่ไม่ต้องการอะไรจากเรากลับคืน เพียงแต่หวังที่จะให้เราได้เติบโต และแข็งแกร่ง



คนคนนั้นก็คือ “พ่อและแม่”ของเรา หรือ ผู้ที่เลี้ยงดูเรา


เราอาจจะผิดหวังเพราะความรักเราอาจจะเสียใจมาหลายครั้ง แต่ถ้าพ่อหรือแม่ของเราเป็นอะไรไป เราจะเสียใจยิ่งกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่า เพราะผู้ชายหรือผู้หญิงคนนี้ที่เรียกว่าพ่อและแม่เพียงสองท่านนี้ที่รักเรามากที่สุดและไม่มีใครจะมาแทนท่านได้  หากคุณมีคู่ครองและสมหวังกับความรักแล้ว ก็ขออย่าลืมแบ่งเวลามาตอบแทนพระคุณของท่านทั้งสองนี้ด้วยนะครับ


“อย่าเสียใจไปเลยหากคิดว่าไม่มีใครรักเราจริงๆ แต่อย่าน้อยก็มีสองคนที่ยังงรักเราอยู่เสมอ คือ พ่อและแม่ ของเรา”

~ จระเข้ฟาดหาง ~



Image credits
http://freewallpaper99.com/free-images-of-love-you-mom-and-dad-download/

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ข้อคิดจาก อาหาร5หมู่

อยากมีสุขภาพดี ต้องกินอาหารให้ครบ5หมู่
แล้วเราชอบกินอาหารทุกหมู่ไหม?
คำตอบคือ “ไม่” ถูกไหมครับ?


แต่เราอยากมีสุขภาพที่ดีก็ต้องกินให้ครบ5หมู่ ถึงแม้เราจะไม่ชอบกินอาหารบางหมู่ก็ตาม

ชีวิตเราก็เช่นกัน...
หากเราอยากจะประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่าจะต้องเจอสิ่งที่เราไม่
ชอบแต่มันนำไปสู่จุดหมาย เราก็ต้องทำให้ได้

~ จระเข้ฟาดหาง ~


Image credit
http://biology-igcse.weebly.com/summary.html